ความสามารถเสริมในการตรวจสอบย้อนกลับได้ กับ Augmented Traceability™: ครั้งแรกของโลกกับความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับที่ปลอดภัยกว่าใคร

Technifor, Gravotech Group, และ ORIDAO ได้เสนอผลิตภัณฑ์โซลูชั่นการตรวจสอบย้อนกลับแบบสากลและปลอดภัยเป็นครั้งแรก ซึ่งมันเป็นการผสานที่ล้ำสมัย ระหว่างการมาร์คชิ้นส่วน กับ RFID ที่ปลอดภัย จึงทำให้สามารถตรวจสอบชื้นส่วนนั้นๆในเชิงย้อนกลับได้ตลอดอายุการใช้งาน โดยเทคโนโลยีสุดล้ำนี้ถูกทำให้เหมาะกับกระบวนการซ่อมบำรุงที่ละเอียดอ่อน เช่นในภาคส่วนการบิน, กลาโหม, พลังงาน, และแหล่งน้ำมัน

                                                  ชิพที่มีคุณลักษณะการรักษาความปลอดภัย

Gravotech เป็นผู้นำของโลกในด้านการมาร์คแบบถาวร และ ORIDAO เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในด้าน RFID ที่ปลอดภัย ทั้งสองได้ร่วมพัฒนาโซลูชั่นซึ่งผสานการมาร์คชิ้นส่วนและการตรวจสอบผ่าน RFID คุณภาพสูงเข้าด้วยกัน โดยมีเป้าหมายในการจัดทำให้มีความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับที่ปลอดภัยและทรงพลังอย่าง Augmented Traceability™ ในด้านฮาร์ดแวร์ ไม่ว่าจะเป็นการมาร์คชิ้นส่วนโดยตรงหรือมาร์คบนแผ่นระบุรหัสก็สามารถทำได้ทั้งนั้น โดยชิพ RFID สามารถถูกฝังในแผ่นรหัสหรือติดกับชิ้นส่วนโดยตรงเลยก็ได้ “เทคโนโลยีนี้จะทำให้ผู้ทำงานในยานอวกาศ, แหล่งน้ำมัน และพลังงานอื่น สามารถระบุและตรวจสอบชิ้นส่วนนั้นๆย้อนกลับได้โดยมีความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ตลอดอายุการใช้งาน” กล่าวโดย Franck Rivet รองประธานของ Gravotech

โซลูชั่นที่โดดเด่น
ก่อนอื่น ต้องบอกว่า ดีไซน์ที่โดดเด่นนี้อยู่บนพื้นฐานของระบบต่อต้านการเลียนแบบ และมีการตรวจสอบตลอดอายุการใช้งานของ RFID ที่ปลอดภัย; ข้อมูลของ Augmented Traceability™ จะถูกเก็บไว้ใน Tag – ทั้งการผลิตชิ้นส่วน, เส้นทางการขนส่ง และการซ่อมบำรุงระหว่างการใช้งาน – ทั้งหมดนี้จะถูกบันทึกเชิงดิจิตอลไว้โดยตัว Tag เอง โดยจะเป็นการป้องกันการแทรกแซงหรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ซึ่งนี่เป็นข้อแตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับระบบตรวจสอบย้อนกลับอื่นๆในท้องตลาด และตามที่ Nicolas Reffé, CEO ของ ORIDAO ได้กล่าวไว้ว่า “หากสามารถถูกแทรกแซงข้อมูลได้ง่ายๆ ก็จะไม่สามารถแสดงหลักฐานที่หนักแน่นพอสำหรับข้อมูลการปฏิบัติงานที่สุ่มเสี่ยงได้ อย่างเช่นการซ่อมบำรุงที่เหมาะสม หรือสถานะของชิ้นส่วนที่เหมาะสม และจะสูญเสียคุณสมบัติในการรักษาความปลอดภัย กลายเป็นโหมดที่ลดคุณภาพไปทันทีเมื่อไม่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายได้” ระบบ RFID ที่ผ่านการจดทะเบียนนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดย ORIDAO โดยมีคุณลักษณะของโปรโตคอลการเข้ารหัสที่โด่งดัง ซึ่งผ่านการตรวจโดยบุคคลที่สาม ที่เป็นสถาบันทางการศึกษาและวิจัยที่ไม่ขึ้นอยู่กับใคร ซึ่ง Tag เหล่านี้ไม่สามารถถูกลอกเลียนแบบได้ และใช้ได้กับมาตรฐาน EPU UHF Gen2 ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการตรวจสอบกลับเชิงอุตสาหกรรม จึงทำให้โซลูชั่นดังกล่าวนั้นสามารถทำงานเข้ากับโครงสร้างที่มีอยู่ของ EPU UHF Gen2 ได้เป็นอย่างดี และหนึ่งสิ่งที่ทำได้คือ การตรวจสอบอายุการใช้งานของชิ้นส่วนนั้น สามารถเรียกดูขณะออนไลน์ได้โดยผู้ใช้ทุกคน ผ่านทางบริการเวบที่เชื่อถือได้

นอกจากนั้น มันยังรวมเทคโนโลยีสองอย่างไว้ด้วยกัน: ทั้งการมาร์คชิ้นส่วน และ RFID ซึ่ง RFID TAG นั้น ไม่เพียงแต่ประกอบไปด้วยข้อมูลการมาร์ค แต่ยังมี Augmented Traceability™ ที่ทรงพลังอีกด้วย หากการมาร์คนั้นเป็นกฎบังคับแล้ว RFID ก็เปรียบเสมือนสิ่งจำเป็นในขั้นตอนที่สุ่มเสี่ยงต่างๆ: เนื่องจากมันสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างอัตโนมัติและปลอดภัย และง่ายต่อการควบคุมในทุกขั้นตอน มันจึงทำให้การตรวจสอบและจัดการทรัพย์สินและเครื่องมือนั้นง่ายขึ้น ทั้งในขณะออนไลน์และออฟไลน์ และเนื่องจากมันมีประสิทธิภาพกว่ามาก ขั้นตอนการซ่อมบำรุงที่ดีกว่าก็สามารถนำมาใช้ได้ ซึ่งนี่จะทำให้เวลาหยุดงานน้อยลง และส่งผลให้คืนทุนได้เร็วขึ้น

ประโยชน์ของโซลูชั่นที่ผสมผสานกันนี้ มีมากมายและเสถียรที่สุด ซึ่งจะลดต้นทุนระหว่างการใช้ได้ โดย RFID Tag นั้นจะเข้ากันได้อย่างดีกับมาตรฐาน RFID EPC UHF Gen 2 อีกทั้ง Gravotech และ ORIDAO ต่างก็มีความรู้และประสบการณ์เชิงลึกในการตอบโจทย์ในทุกด้านเกี่ยวกับการผสมผสานโซลูชั่น Augmented Traceability™ นี้เข้ากับกระบวนการของลูกค้า รวมถึงการออกแบบ, การผลิตและแหล่งของวงจรผสาน RFID, Tag หล่อแข็ง, เครื่องอ่าน RFID, วัสดุในการมาร์คและสถานที่ในการมาร์ค, ตลอดจนการให้คำแนะนำและผสานระบบอีกด้วย

และสุดท้าย โซลูชั่นที่นำมาใช้ได้ง่ายและรวดเร็วนี้ถูกสนับสนุนโดย กลุ่ม Gravotech Group ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการมาร์ค, การระบุตัวตนและรักษาความปลอดภัย “ผู้ผลิตโซลูชั่น RFID นั้น ส่วนใหญ่เป็นบริษัทในท้องถิ่น Gravotech จึงสามารถสนับสนุนโครงการขนาดใหญ่ระดับประเทศได้โดยตรง และสามารถจัดการโปรแกรมผสมผสานหลักได้ข้ามประเทศ ต้องขอบคุณเครือข่ายสาขาย่อยๆที่โดดเด่นนี้ด้วย” กล่าวโดย Franck Rivet รองประธานของ Gravotech ซึ่งทางกลุ่มมีศูนย์วิศวกรรมที่ใกล้ลูกค้าถึง 3 แห่งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา และยังมีทีมที่มากประสบการณ์ในกว่า 30 ประเทศ บน 5 ทวีปอีกด้วย

  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม…