.NET ในระบบ HMI

การพัฒนาซอฟต์แวร์ในระบบ HMI เป็นเรื่องที่ใช้งบค่อนข้างสูง ซึ่งในอดีตนั้น ผู้ผลิตระบบ HMI ต่างๆ ได้ทำการลงทุนหลักๆ ทั้งในด้านของเวลา แรงงาน และเงินทุน เพื่อสร้างโปรแกรมซอฟท์แวร์ของพวกเขาขึ้นมา ผลที่ได้คือกรอบการทำงานทางเทคโนโลยีที่จำกัด โดยขึ้นอยู่กับการตัดสินใจที่ทำไว้นานแล้ว
การพัฒนาระบบ HMI ในอนาคตนั้น จะมุ่งหน้าเข้าสู่แนวทางใหม่ โดยเริ่มต้นจากการเลือกสภาพแวดล้อมการพัฒนาโปรแกรมแบบเปิดกว้างอย่าง .NET Framework คุณก็จะสามารถใช้แพลตฟอร์มที่ดี ทันสมัย และมีเสถียรภาพที่ได้รับการพิสูจน์แล้วได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน คุณก็ยังสามารถใช้เครื่องมือและฟังชั่นการทำงานที่หลากหลาย ที่จะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งโซลูชั่นระบบ HMI ได้ และทำให้มีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีที่สร้างขึ้นสู่การปฏิสัมพันธ์
แหล่งข้อมูลต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลัง .NET Framework ล้วนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเฟรมเวิร์คนั้น คือส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows โดยมีความเป็นไปได้สูง ว่าแอพพลิเคชั่นจากเฟรมเวิร์คของ Microsoft สามารถรับประกันความเป็นนวัตกรรมใหม่และมีเสถียรภาพของโซลูชั่นระบบ HMI ได้ อีกทั้งยังมีอนาคตที่มั่นคง ข้อดีที่ชัดเจนอีกอย่างหนึ่งคือ คุณสามารถได้รับผลประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างๆ ที่มาพร้อมกับ .Net Framework ซึ่งนับว่าเป็นเฟรมเวิร์คที่ครอบคลุมเลยทีเดียว ตัวอย่างเทคโนโลยีที่สร้างข้อกำหนดเบื้องต้นในโลกแห่งระบบ HMI โดยเฉพาะ คือ WPF (Windows Presentation Foundation) Ribbon (ด้านแถบเครื่องมือในโปรแกรมมาตรฐานของ Windows) และโอกาสในการเขียนโปรแกรมในภาษา C#

การเปลี่ยนแปลงยุคสมัยของระบบอัตโนมัติ
อีกแนวทางใหม่ของระบบ HMI นั้นสอดคล้องควบคู่ไปกับตลาดของระบบอัตโนมัติ ที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย นักพัฒนาโปรแกรมรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาสูงกำลังก้าวเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมนี้ โดยสิ่งที่กำลังเป็นที่ต้องการของพวกเขา ก็คือเครื่องมือที่เปิดกว้างและทันสมัยยิ่งขึ้น ผู้ใช้และผู้ประกอบการร้านค้าบนชั้นอุตสาหกรรมได้เติบโตขึ้นพร้อมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (GUI) ที่ทันสมัย ซึ่งความคาดหวังของส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ออกแบบที่ใช้งานง่ายที่เป็นระบบอัตโนมัตนั้น มีการเติบโตในอัตราเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น Apple และ Android ของ Google เป็นต้น ได้มีการตั้งมาตรฐานใหม่เรื่อยมาสำหรับรูปแบบกราฟิกและความง่ายต่อการใช้งาน และในที่สุดแล้วก็จะต้องมีการตอบสนองจากภาคอุตสาหกรรมอย่างแน่นอน

กราฟิกและมีเดียคอมโพเน้นท์เสริม
วิธีหนึ่งที่จะตอบสนองการพัฒนาโปรแกรมนี้อย่างประสบความสำเร็จ คือการใช้โปรแกรม WPF ซึ่งเป็นเครื่องมือกราฟิกของ Microsoft ที่มีรวมอยู่ใน .NET Framework ข้อดีคือผู้ใช้สามารถใช้กราฟิกเวกเตอร์ที่มีการซูมภาพโดยไม่ลดคุณภาพของภาพได้ อีกทั้งรูปแบบการออกแบบยังสามารถแยกออกจากการเขียนโปรแกรมผ่าน XAML ได้ นอกเหนือจากศักยภาพของกราฟิกอันยอดเยี่ยมแล้ว ทั้งนี้ยังมีเครื่องมือสำหรับการสร้างออบเจ็กต์ของระบบ HMI ที่สามารถมีความกลมกลืนกับชื่อแบรนด์ของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การนำเข้าออบเจ็กต์ที่ได้รับการออกแบบใน MS Expression Design เป็นต้น คือการเปิดประตูสู่การใช้กราฟิก 3 มิติ และเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ได้ในทันที เช่น โปร่งแสง การแรเงา ภาพเคลื่อนไหว สตอรี่บอร์ด และมัลติมีเดีย โดยโปรแกรมเมอร์จะสร้างตรรกะ นักออกแบบจะดูแลเรื่องภาพลักษณะที่ปรากฏ และ XAML จะจัดการเรื่องการปฏิสัมพันธ์ระหว่างสองอย่างที่กล่าวมา ด้วยโปรแกรม WPF ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเครื่องมือกราฟิกที่ทันสมัยที่จะสร้างฟังก์ชั่นการทำงานระบบ HMIในอนาคตได้ เทคโนโลยีที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งใน .NET Framework คือการเข้าถึงมีเดียออบเจ็กต์ต่างๆ ของ Windows ซึ่งเป็นการเปิดทางสู่มีเดียคอมโพเน้นท์ต่างๆ เช่น Internet Explorer, Windows Media Player, และ PDF Readers เป็นต้น

การสร้างระบบ HMI ที่ปรับแต่งได้
ด้วยการพัฒนาโปรแกรมที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้ จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นที่ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายโซลูชั่นระบบ HMI จะต้องสามารถเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเข้าไป เพื่อทำให้โซลูชั่นระบบ HMI ของตนนั้น แตกต่างจากของบรรดาเหล่าคู่แข่ง นี่ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับฟังค์ชั่นการทำงาน หรือแม้กระทั่งกับการออกแบบ ในขณะที่ฮาร์ดแวร์เริ่มที่จะกลายเป็นแบบเดียวกันมากขึ้น วิธีการที่ผู้ใช้สามารถปรับแต่งและใช้งานซอฟแวร์ HMI ก็จะยิ่งกลายเป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ
การเข้าถึงคอมโพเน้นท์สำหรับ .NET ที่เสร็จแล้ว เป็นโอกาสพิเศษในการปรับแต่งแอพพลิเคชั่น ที่พบมากที่สุดนั่นคือกราฟิกคอมโพเน้นท์ ที่ฟังค์ชั่นต่างๆ ถูกห่อหุ้มอยู่ในกราฟิกออบเจ็กต์ (เช่น ปุ่ม หรือแผนภาพ) คอมโพเน้นท์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเครื่องมือพัฒนาโปรแกรมโดยภาษาระดับสูง สามารถล็อคได้เพื่อป้องกันการคัดลอก คุณสามารถเลือกเองได้ว่าจะพัฒนาคอมโพเน้นท์สำหรับ .NET หรือว่าใช้คอมโพเน้นท์อื่นที่มีอยู่แล้วในร้านค้าคอมโพเน้นท์ออนไลน์ พร้อมที่จะดาวโหลดและติดตั้ง
มีบริษัทจำนวนหนึ่งที่พัฒนาคอมโพเน้นท์สำหรับ .NET Framework และการพัฒนาในระบบ HMI นี้ ได้เปิดโอกาสต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ยกตัวอย่าง เช่น คุณสามารถนำความรู้พิเศษในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เข่น น้ำมันและก๊าซ ระบบอัตโนมัติสำหรับอาคารสูง น้ำและน้ำทิ้ง เป็นส่วนร่วมเข้าไปสนับสนุนในคอมโพเน้นท์ของ .NET และนำไปสู่การทำให้ง่ายขึ้นสำหรับลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโซลูชั่นของระบบ HMI
ภาษาสคริปต์ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโซลูชั่นของระบบ HMI โดยในอดีตนั้น ผู้ผลิตต่างๆ มีภาษาท้องถิ่นของแต่ละภาษาที่แตกต่างกันไป ใน .NET Framework นั้น C# คือหนึ่งในภาษามาตรฐาน ในทางปฏิบัติ นั่นหมายถึงอิสรภาพที่มากขึ้นของนักพัฒนาโปรแกรม ที่สามารถใช้ประโยชน์จากฟังค์ชั่นการทำงานได้ทั้งหมดในภาษานั้น แทนการใช้เฉพาะส่วนที่เลือกไว้
ด้วยการเขียนสคริปต์ คุณสามารถสร้างฟังค์ชั่นของคุณเองขึ้นมาได้ในแอพพลิเคชั่น รวมถึงสร้างฟังค์ชั่นที่ยังไม่มีในเครื่องมือพัฒนาโปรแกรมระบบ HMI นอกจากนี้คุณยังสามารถเรียกคอมโพเน้นท์ต่างๆ ได้อีกด้วย

สรุป
ระบบแบบบูรณาการในระบบอัตโนมัติคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน โดยระบบที่ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตนั้นได้กลายอดีตไปแล้ว ซึ่งตลาดนั้นมีแนวโน้มว่าแพลตฟอร์มมาตรฐานคือสิ่งที่อยู่ในความต้องการ เพื่อที่ว่าผู้ผลิตที่หลากหลายจะสามารถสื่อสารกันได้
ดังนั้นระบบและเทคโนโลยีที่เปิดกว้างเป็นสิ่งที่จำเป็นในอนาคต แนวโน้มอีกอย่างหนึ่งคือ นักพัฒนาโปรแกรมระบบ HMI มีความต้องการเครื่องมือสำหรับปรับแต่งโซลูชั่นที่มากขึ้น เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน
ความเป็นที่ต้องการสูงของกราฟิกและความง่ายต่อการใช้งานนั้น เป็นสิ่งที่กำลังขับเคลื่อนตลาดของผู้บริโภคให้ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

iX - ระบบ HMI รูปแบบใหม่ล่าสุดจาก Beijer Electronics
Beijer Electronics ยังคงก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละในเรื่องของการพัฒนาซอฟท์แวร์ในระบบ HMI โดย iX คือซอฟท์แวร์ HMI ใหม่ล่าสุดที่สร้างบนเทคโนโลยี .NET Framework ซึ่งปรัชญาของ iX นี้ ได้แก่ กราฟิกที่ดูทันสมัย ฟังก์ชั่นการทำงานของระบบ HMI ที่สมบูรณ์ สภาพแวดล้อมของการออกแบบที่ใช้งานง่าย และสถาปัตยกรรมที่เปิดกว้างอย่างแท้จริง หลักการสี่ข้อสู่แนวคิดอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีคู่แข่งเพียงไม่กี่แห่งในโลก

เขียนโดย
Marie Green, Beijer Electronics