โรงงานใหม่ของ Interroll ในประเทศไทย เดินหน้าเต็มกำลังการผลิตแล้ววันนี้

เซนต์ แอนโตนิโน สวิสเซอร์แลนด์/กรุงเทพ ประเทศไทย วันที่ 22 สิงหาคม 2562 อินเตอร์โรล (ประเทศไทย) ได้ย้ายเข้าสู่โรงงานแห่งใหม่สุดทันสมัย ในพื้นที่อำเภอพานทอง เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อินเตอร์โรล (ประเทศไทย) ได้เสร็จสิ้นการย้ายโรงงาน จากเดิมที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เฟส 8 อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ไปยังโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ที่เฟส 10 โดยโรงงานใหม่มีพื้นที่การผลิตมากกว่า 4,800 ตารางเมตรและพื้นที่สำนักงานอีก 700 ตารางเมตร ทีมีการออกแบบได้อย่างทันสมัยและโดดเด่นตามแนวทางของ Interroll

“โรงงานแห่งใหม่นี้มีความทันสมัย พร้อมกำลังการผลิตที่สูงขึ้น” กล่าวโดยคุณไกรสร นาคะพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โรล (ประเทศไทย) “โดยผลิตภัณฑ์ที่จะผลิตขึ้นที่โรงงานแห่งนี้ ประกอบด้วย โรลเลอร์ โรลเลอร์ไดรฟ พาเลทโฟล และ งานบริการดรัมมอเตอร์ ซึ่งลูกค้าของเราสามารถมั่นใจในงานบริการสำหรับดรัมมอเตอร์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ที่เราจะให้บริการที่โรงงานใหม่นี้”

โดยภายในสิ้นปี 2562 นี้ จะมีการติดตั้งไลน์ผลิต Modular Conveyor Platform (MCP) เพิ่มเข้ามาด้วย นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดพื้นที่สำหรับโหลดตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อรองรับคำสั่งซื้อพาเลทโฟลที่มีปริมาณสูงสำหรับตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในโรงงานอันทันสมัยนี้ ยังประกอบด้วยโรงอาหารสำหรับพนักงานและพื้นที่สันทนาการ เช่น กีฬาและกิจกรรมเสริมสร้างการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นคอนเซปต์สำหรับออฟฟิศยุคใหม่ เพื่อสร้างการสื่อสารและความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างพนักงานและทีมงานในโครงการต่างๆ

เพิ่มกำลังผลิตและลดเวลาการส่งมอบ
จากการเติบโตของตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และเมียนมา ได้แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่สูงขึ้นอย่างชัดเจนในผลิตภัณฑ์ของ Interroll พร้อมทั้งศักยภาพที่ดีในอนาคต นอกจากนี้ การติดตั้งระบบถ่ายวัสดุที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในภูมิภาคนี้ ยังเพิ่มโอกาสสำหรับงานบริการของ อินเตอร์โรล (ประเทศไทย) ด้วย

“จากการนำระบบการผลิตแบบลีน One Piece Flow รวมทั้ง ระบบอัตโนมัติมาใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้เราสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ” กล่าวโดย Jens Strüwing รองประธานบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ Interroll “โรงงานใหม่นี้จะทำให้เราสามารถลดเวลาการส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าในภูมิภาคนี้ได้ 30 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และสามารถตอบสนองความต้องการในตัวผลิตภัณฑ์และบริการ ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างแน่นอน”

  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม…